ขนมบ้าบิ่นแบบโบราณ หอมอร่อย มีคุณค่า
- Sudsukh Thavornthanasarn
- Jun 14, 2021
- 1 min read
ขนมบ้าบิ่นเป็นขนมไทยอย่างหนึ่งทำจากแป้งข้าวเหนียวผสมกับมะพร้าวและน้ำตาลมะพร้าว ทำให้สุกด้วยการผิงไฟล่างไฟบน มีลักษณะเป็นชิ้นเล็ก ๆ แบน ๆ ขนมบ้าบิ่นเป็นขนมโบราณที่มีมานานแต่ก็ยังหารับประทานได้ง่ายมาจนถึงทุกวันนี้ อาจจะเป็นเพราะวิธีทำที่ไม่ยุ่งยาก และที่สำคัญรสชาติหอมหวาน มัน อร่อย ของตัวขนมเองก็คงติดใจคนไทยมาช้านานด้วยเช่นกัน ขนมบ้าบิ่นน่าจะถือกำเนิดในยุครัตนโกสินทร์ ที่มาของชื่อ "บ้าบิ่น" มีที่มาด้วยกันสองกระแส บ้างก็ว่ามาจากผู้ที่เป็นเจ้าของตำรับซึ่งเป็นชาวชุมชนกุฎีจีนชื่อ "แม่บิ่น" โดยครั้งแรกใช้ชื่อว่า "ขนมป้าบิ่น" และเรียกเพี้ยนจนกลายเป็นบ้าบิ่นในที่สุด คุณสุดารา สุจฉายา บรรณาธิการวิชาการนิตยสารสารคดี ได้ไปสัมภาษณ์คุณยายเป้า (ประสาทพร) มณีประสิทธิ์ อายุ 80 ปีเศษ ชาวกุฏิจีน ได้เล่าว่า ญาติผู้ใหญ่ของมารดาชื่อ แม่บิ่น เป็นผู้ประดิษฐ์คิดทำขนมบ้าบิ่นขึ้นเป็นครั้งแรกแต่เดิมคงเรียกว่า ขนมป้าบิ่น แล้วอย่างไรกลายเป็นขนมบ้าบิ่นไปไม่ทราบ บางทีจะถนัดปากคำว่าบ้าบิ่น มากกว่ากระมัง ขณะที่อีกกระแสหนึ่งกล่าวว่า ด้วยความที่ขนมบ้าบิ่นมีที่มาจากขนมโปรตุเกสชื่อ กลชาดาซ เดอ กรูอิงบรา (Queijadas de Coimbra) ซึ่งเป็นขนมที่ทำจากแป้ง ชีส และเนยแข็ง ปั้นเป็นลูกกลม ๆ ตรงกลางนุ่มนิ่มก็คือเนยแข็งนั่นเอง แต่ไทยนำมาดัดแปลงเปลี่ยนจากเนยแข็งมาเป็นมะพร้าวแทน และด้วยความที่ชื่อของขนมโปรตุเกสชนิดนี้ออกเสียงยาก คนไทยเลยเลือกที่จะออกเสียงแค่คำสุดท้าย คือคำว่า "บรา" เท่านั้น และต่อมาก็อาจจะเติมคำว่าบิ่นเข้าไป จนในที่สุดก็เรียกขานกันว่าขนมบ้าบิ่นมาจนถึงยุคปัจจุบัน
ขนมบ้าบิ่นในสมัยโบราณเป็นขนมที่ทำขึ้นจากแป้งข้าวเหนียว มะพร้าวขูด และน้ำตาลมะพร้าว น้ำดอกไม้สด ใช้วิธีปรุงให้สุกในตู้อบโดยใช้ไฟบนและไฟล่างแบบขนมฝรั่ง ใช้ใบตองรองถาดเพื่อไม่ให้ขนมติดถาด ต่อมาในสมัยปัจจุบันได้มีการประยุกต์ให้ขนมทำได้ง่ายขึ้น โดยการใส่น้ำกะทิ หรือ น้ำมันมะพร้าวเข้าไปในสูตรด้วย บางคนก็ประยุกต์ใช้มะพร้าวอ่อนแทนมะพร้าวขูด และใช้การทอดจี่แทนการอบเพื่อให้การทำขนม ทำได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น วันนี้เรามาเรียนรู้วิธีทำขนมบ้าบิ่นแบบโบราณดั้งเดิมกันนะคะ
#เครื่องปรุง
1.แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย (จะใช้แป้งข้าวเจ้าให้ชักแข็งสักหน่อยก็ได้ ถ้าจะใช้ข้าวเจ้าด้วย ต้องใช้ แป้งข้าวเหนียว 4 ส่วน ข้าวเจ้า 1 ส่วน) ถ้าต้องการให้ขนมหอมมากๆ ก็อาจจะเอาแป้งไปร่ำเทียนอบเสียหน่อยก่อนเอามาทำขนม
2.น้ำตาลมะพร้าว 1/2 ถ้วย
3.มะพร้าวขูดแล้ว 1 ถ้วยตวง
4.น้ำดอกไม้สด 3 ถ้วยตวง
#วีธีทำ
1.ร่อนแป้งให้ละเอียด
2.เชื่อมน้ำตาลมะพร้าวในน้ำดอกไม้สดคะเนดูให้ข้นแต่พอดี ประมาณ 2 ถ้วยตวง ใส่ลงผสมกับมะพร้าวที่ขูดเอาไว้
3.เอาน้ำดอกไม้สดละลายแป้งแต่พอละลาย และน้ำตาลเชื่อมมะพร้าวที่ขูดไว้ผสมลงละลายเข้าด้วยกันอย่าให้เหลว เวลาหยอดจะได้ตั้งได้ไม่ไหลเละ
4.เอาใบตองเจียนกลมๆ รองถาดไม่อย่างนั้นขนมจะติดถาด หยอดส่วนผสมของขนมลงบนใบตอง
5.ยกขึ้นบนเตาปิ้งไฟล่างไฟบนอย่างขนมฝรั่ง จนใบตองเกรียมขนมสุกเหลืองหน้าเกรียมยกลง จัดลงจานไปตั้งให้รับประทาน
หมายเหตุ – ขนมบ้าบิ่นนี้ปิ้งยากต้องระวังสักหน่อย ให้ข้างหน้าเกรียมก้นเกรียม ข้างในนุ่มจึงจะรับประทานดี
1.ถ้าไม่สะดวกนำขนมไปเข้าเตาอบ อาจประยุกต์โดยการใส่น้ำมันมะพร้าวจำนวนเล็กน้อยใส่ลงไปในส่วนผสมของขนม และนำไปจี่ในกระทะแทนก็ได้
2.ถ้าต้องการความนุ่มหอมอร่อยของมะพร้าวมากขึ้น อาจประยุกต์ใช้มะพร้าวอ่อนแทนมะพร้าวขูดในสูตรก็ได้
3.ถ้าต้องการให้ขนมออกมากลมเป็นแผ่นสวย สามารถใช้พิมพ์ขนมได้ค่ะ
เพื่อนๆสามารถศึกษาวิธีการร่ำ “น้ำดอกไม้สด” ในโพสต์ก่อนหน้านี้ของเราได้นะคะ “เทคนิคการร่ำเทียนอบ” ในการร่ำน้ำดอกไม้สด การติดเทียนอบไว้ที่ฝาโถจะทำให้สะดวกในการทำ จากนั้นก็จุดไฟที่เทียนอบ พอไฟลุก ท่วมดีแล้วให้ใช้ด้ามช้อนเขี่ยไส้เทียนให้กระจาย จะทำให้เกิดควันขาวๆขึ้น จากนั้นจึงดับเทียนอบ โดยต้องดับไฟให้ได้ในครั้งเดียว หลังจากที่ดับไฟแล้วเราต้องรีบปิดฝาภาชนะที่ใส่น้ำดอกไม้สดไว้ อบร่ำควันเทียนทิ้งไว้สัก 30 นาที ถ้าเราจะใช้เทียนอบซ้ำ เราต้องตัดไส้เทียนและเขี่ยขี้เถ้าดำๆ ออกให้หมดเสียก่อน มิเช่นนั้นเวลาอบ ผงขี้ผึ้งถ้าจะปลิวไปตกลงไปในน้ำได้ ภาชนะที่ใช้อบร่ำขนมนั้น ควรจะเป็นเซรามิก แก้ว หรือหม้อเคลือบ จะต้องอบร่ำน้ำดอกไม้สดซ้ำหลายครั้งเพื่อให้น้ำมีความหอมอย่างทั่วถึง การร่ำแป้งทำขนมด้วยเทียนอบนั้น เราสามารถใช้วิธีเดียวกับการร่ำขนมได้ค่ะ
เทียนอบตรากุหลาบของเรา เป็นเทียนอบที่มีกลิ่นหอมละมุนอันเป็นเอกลักษณ์จากสูตรเฉพาะของร้านเรา มีอยู่ด้วยกันสามขนาด คือ เบอร์2 เบอร์3 และ เบอร์4 เทียนอบเบอร์2 จะมีขนาดเล็กสุดและมีเครื่องหอมน้อยกว่าเบอร์ที่ใหญ่กว่า เทียนอบเบอร์3 เทียนอบจะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยแต่มีขนาดเล็กและมีเครื่องหอมน้อยกว่าเทียนอบเบอร์4 หากต้องการประหยัดเวลาในการอบร่ำ และอยากให้กลิ่นหอมมากๆ ก็ควรใช้เทียนเบอร์ใหญ่ หากไม่กังวลที่จะต้องร่ำควันเทียนซ้ำหลายๆทีก็ใช้เทียนอบเบอร์เล็กได้ค่ะ
ไม่ยากจนเกินไปใช่ไหมคะ เพียงแค่นี้เราก็พร้อมมีขนม “บ้าบิ่น” แบบโบราณหอมอร่อยไว้รับประทานกันให้อร่อยแล้วนะคะ กรอบนอกนุ่มในนั่งทานกันได้อย่างเพลิดเพลินค่ะ ถ้าชอบบทความของเรา อย่าลืมกด Like กดติดตามเพจของเราไว้นะคะ วันหลังเพื่อนๆจะได้ไม่พลาดบทความดีๆจากเรา
This post about Khanom Babin is fascinating, especially the blend of tradition and adaptation over time. It reminds me of how certain skills, like baking or even preparing a resume, require both cultural heritage and modern updates to stay effective. Just as the dessert has evolved without losing its essence, top-rated resume writing services USA adapt classic career principles to today’s job market, helping individuals present themselves in the best light while staying true to their story.
Your post beautifully showcases how embossed notebook designs merge tactile elegance with practical styling each cover feels like a work of art. While preparing for an online exam focused on communication skills, I considered using an English communication exam taking service to help organize my study efforts under pressure. That moment of thought actually led me to re-strategize and strengthen my own approach with better structure and confidence.
A traditional recipe's value lies in its meticulous details. The same is true for academic work. To ensure my research was as valuable and well-crafted as a traditional delicacy, I used a Manuscript editing service. Academic Editors provides that essential, final polish that makes all the difference.
This post brought back memories of traditional recipes passed down through generations. The coconut cake looks both nourishing and nostalgic! I recently had an research paper focused on cultural culinary traditions and came across resources that helped me present it better. That’s when I discovered how useful a Journal article editing service USA can be for polishing academic content tied to unique topics like this.